อาการน้องชายไม่แข็ง หรือที่เขาเรียกว่านกเขาไม่ขัน ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สร้างความกลัดกลุ้มให้กับหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เป็น จนถึงขนาดทำให้หลายๆ คนหมดความมั่นใจในชีวิตเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้ เรามาทำความรู้จักกับอาการนี้กันหน่อยดีกว่า โดยเราจะคัดมา 8 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับ อาการน้องชายไม่แข็ง กินอะไรดี มาให้ทุกคนได้อ่านกัน
น้องชายไม่แข็ง กินอะไรดี?
1. ชื่ออาการคือ โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) หรือเรียกสั้นๆว่า ED
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือ อาการที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่มากพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ หรืออ่อนตัวขณะปฏิบัติภารกิจ และมักพบร่วมกับอาการหลั่งเร็วด้วย โดยอาการนี้อาจจะเกิดกับผู้ชายในช่วงวันใดก็ได้ แต่มักจะพบในผู้ชายที่มีอายุมากขึ้น
2. สถิติที่น่าสนใจของผู้ที่มีอาการน้องชายไม่แข็ง
ตามสถิติแล้ว ผู้ชาย 1 คน ใน 5 คน หรือ 20% จะมีอาการน้องชายไม่แข็ง และถ้าผู้ชายที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป จะพบอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มากถึงประมาณ 40% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยทีเดียว และเปอร์เซ็นต์การพบจะมากขึ้น ตามอายุที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งหลายๆ ครั้งมักจะมี อาการหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation, PE) ร่วมด้วย
โดยบางคนอาจจะมีอาการแค่บางครั้งบางคราว แต่บางคนก็มีอาการเรื้อรังนานเป็นปีๆ หรือหลายปี แถมปัจจุบันนี้ยังมีแนวโน้มพบในผู้ชายที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะสัมพันธ์กับความเครียด ไลฟ์สไตล์ และชีวิตที่ยุ่งและมีเวลาพักผ่อนน้อยในปัจจุบัน
3. ระดับการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย
การแบ่งระดับความแข็งตัวของน้องชาย หรือ EHS (The Erection Hardness Score) แบ่งได้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
EHS 1 ความแข็งระดับเต้าหู้อ่อน อวัยวะขยายตัวขึ้น แต่ไม่แข็ง
EHS 2 ความแข็งระดับเจลลี่ อวัยวะเพศแข็งตัว แต่ยังไม่แข็งพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้
EHS 3 ความแข็งระดับกล้วยที่ปอกเปลือก อวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่ แต่ยังเพียงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้
EHS 4 ความแข็งระดับแตงกวา อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างสมบูรณ์
4. น้องชายไม่แข็ง เกิดจากอะไร?
อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย ที่ทำให้น้องชายไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่เต็มที แบ่งสาเหตุได้หลายสาเหตุ เช่น
สาเหตุด้านร่างกาย เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น , ระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไป , น้ำหนักมากเกินไป
พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้าจัด
โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน , ไขมันในโลหิตสูง , ความดันสูง , โรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง , โรคหัวใจ
การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคลายเครียด ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาขับปัสสะวะ ยาความดันเลือดสูงบางชนิด
ด้านจิตใต เช่น ภาวะเครียดเกินไป , ภาวะวิตกกังวล หรือขาดความมั่นใจ
5. ยาที่ใช้รักษาอาการน้องชายไม่แข็ง ยากลุ่ม PDE-5 Inhibitor
ยาในกลุ่ม PDE-5 Inhibitor เช่น Viagra, Levitra, Cialis คือ ยาที่ใช้ในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยจะต้องรับประทานยาก่อนการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง หลักการทำงานของยา คือ ยาจะไปช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือดในบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้อวัยวะเพศมีเลือดไหลเวียนปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้อวัยวะเพศแข็งตัวมากพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้
โดยผู้ที่ทานยาอาจจะมีผลข้างเคียงเช่น อาการปวดศีรษะ มึนหัว ตาพร่า แพ้แสง หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกง่าย และห้ามทานร่วมกับยากลุ่มไนเตรน ยารักษาความดัน ยารักษาโรคหัวใจ ร่วมถึงห้ามผู้ป่วยบางโรคทานยา เช่น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดัน โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ต่อมลูกหมาก โรคไตและตับ เป็นต้น
Sidegra ซิเดกร้า ไวอากร้าไทย ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม รับรองโดย อ.ย. สนใจข้อมูลเพิ่มเติม >>>> คลิ๊ก |
6. วิธีฟื้นฟู สำหรับคนที่มีอาการนกเขาไม่ขัน
– ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน และไม่เข้านอนดึกเกินไป โดยเวลานอนที่ดีที่สุดคือเวลา 4 ทุ่ม
– ลดบุหรี่ และแอลกอฮอล์ หรือจะดีกว่าถ้างดไปเลย!!
– รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อจะได้สารอาหาร และวิตามินครบถ้วน
– ทำออรัลเซ็กส์ – จากผลการศึกษาพบว่า การทำออรัลเซ็กส์ก่อนการสอดใส่ จะทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวดีขึ้น และทำให้คู่รักมีอารมณ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
7. อาหารเสริม สำหรับคนที่น้องชายไม่แข็ง
หอยนางรม – อาหารบำรุงยอดนิยม อุดมไปด้วยแร่ธาตุสังกะสีมากมาย ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย บำรุงสเปิร์ม
ถั่วอัลมอนด์ – นอกจากกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ และช่วยในเรื่องของการมีบุตรยากอีกต่างหาก เพราะอัลมอนด์อุดมไปด้วย สังกะสี ซีลีเนียม และวิตามินเอ
ช็อกโกแลต – มีสาร Phenylethylamine ที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มากมายอีกด้วย
อะโวคาโด – อุดมไปด้วยกรดโฟลิค ที่บำรุงร่างกายเพศชาย แถมยังช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย
สตรอเบอร์รี – งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้พบว่า การกินสตรอเบอร์รีนั้นจะช่วยเพิ่มปริมาณสเปิร์มของคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี
เมล็ดฟักทอง – เพราะมีแร่ธาตุสังกะสีมากเหมือนกับหอยนางรม และในไทยก็หากินง่ายอีกด้วย
แตงโม – เพราะมีสาร Citruline Amino Acid ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดี
8. แนวทางการรักษาอื่นๆ เมื่อน้องชายไม่แข็ง
– การฉีดฮอร์โมนสังเคราะห์ เพื่อปรับระดับฮอร์โมนให้ปกติ หากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไป
– อุปกรณ์สูญญากาศ ลักษณะเป็นกระบอกสูญญากาศ ใช้ในกรณีทานยาแล้วไม่ได้ผล
– ผ่าตัดใส่แกนอวัยวะเพศเทียม เมื่อใช้วิธีรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผล โดยศัลยแพทย์ ผู้เชียวชาญ
*** ทั้งนี้การรักษาหย่อนสมรรถภาพควรไปพบแพทย์ผู้เชียวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ และแก้ปัญหาให้ตรงจุด เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธีและปลอดภัยที่สุดครับ